ที่ดิน ส.ป.ก.
ตั้งแต่มี พ.ร.บ. (พระราชบัญญัติ) การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2518 ก็มีการยึดครอง หรือครอบครองที่ดินกันทั่วประเทศ ก่อนที่จะออกเป็น พ.ร.บ. ก็มีการจับจองไปแล้วค่อนประเทศเห็นจะได้ ทั้งๆที่ยังไม่รู้รายละเอียดของกฏหมายที่ "คณะปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม" (ส.ป.ก.) จะออกมาเป็นอย่างไร ทุกวันนี้ก็ยังมีคนที่ไม่เข้าใจกฏหมายมากมาย หรือไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของ พรบ. ปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม จึงเป็นเหตุให้เกิดการครอบครองที่ดินที่ผิดกฏหมาย การถ่ายโอนและซื้อขายที่ ขัดต่อกฏหมาย สปก. การครอบครองที่ดินโดยบุคคลที่ไม่มีสิทธิถือครองที่ดิน สปก. รวมทั้งการทุจริตต่อหน้าที่ของภาครัฐ การออกเอกสารสิทธิมิชอบ
ที่ดิน "วังน้ำเีขียว"
รื้อรีสอร์ตวังน้ำเขียว
นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งรื้อรีสอร์ตและบ้านพัก ตากอากาศ จำนวน 418 แห่ง ที่บุกรุกอุทยานแห่งชาติ จำนวนรีสอร์ตทั้ง 418 แห่ง ศาลได้ตัดสินเป็นที่สิ้นสุดแล้ว และกรมอุทยานฯได้ปิดประกาศให้เจ้าของที่ ได้รับทราบแล้ว ตามที่กฏหมายกำหนด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการรื้อถอนรัสอร์ตที่ได้ ้มีการแจ้งเตือนจำนวนหนึ่งแล้ว
ในช่วงดึกของคืนวันที่ 31 ก.ค. ก็ได้มีการรื้อถอน "ทะเลหมอกรีสอร์ต" และ จะรื้อถอนออกทั้งหมด ก่อนจะเกษียณอายุราชการต้นปีหน้า เพื่อให้เป็น "วังน้ำเขียวโมเดล" นายดำรงค์ พิเดชกล่าว (ตามที่เป็นข่าว)
นอกจากผู้บุกรุกจะต้องถูกดำเนินคดีแล้ว จะต้องถูกฟ้องร้องค่ารื้ถอนและการคืนพื้นที่ ป่าอีกด้วย
การบุกรุกทำลายป่าและอุทยานแห่งชาติ เป็ฯการทำลายชาติ เป็นวาระแห่งชาติ ที่รัฐาลต้องทำทันที ก่อนที่สัตว์ป่า พันธุ์พืช และพื้นที่ป่าจะหมดสิ้น
การบุกรุกป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศนับร้อยแห่ง มีผู้บุกรุกสร้างรีสอร์ต บ้านพัก หรือใช้เป็นพื้นที่การเกษตร เช่น ปลูกต้นยางและทำไร่ข้าวโพดเป็นต้น แต่ที่ผ่านมา ไม่มีหัวหน้าอุทยานปรือกรมป่าไม้ หรืออธิบดีคนไหนกล้าทำในหน้าที่ที่ ตนเองได้รับมอบหมาย เพราะว่าผู้บุกรุกหรือผู้ครอบครอง เป็นนักการเมืองท้องถิ่น หรือระดับประเทศ เช่น ส.ส. ส.ว. หรือเป็นนายตำรวจ นายทหาร หรือข้าราชการ ระดับสูง รวมทั้งผู้พิพากษาก็มี หรือผู้ครอบครองพื้นที่ที่บุกรุกอุทยาน วังน้ำเขียว อย่างเช่น "วัดธรรมกาย" ครอบครองพื้นที่กว่า 200ไร่ อีกจำนวนหนึ่งก็เป็นบุคคล ธรรมดาทั่วไปที่มีการซื้ขาย น.ส. 3, ส.ค. 1 และ ภ.บ.ท. 5 ถึงกับมีการประกาศขายกันอย่างเปิดเผย
ต้องเรียกว่า ผู้มีอิทธิพลจำนวนไม่น้อยที่ครอบครองพื้นที่อย่างผิดกฏหมาย ทั้งๆที่เขาเหล่านั้นก็รู้กฏหมายดี จะเห็นได้ว่า การเข้ารื้อถอนเป็นไปด้วยความยาก ลำบาก พบกับการต่อต้าน ปิดถนน จำต้องเข้ารื้อถอนในเวลากลางคืน
นายดำรงค์ พิเดช นับว่าเป็นอธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชที่มีความมุ่งมั่น รักษ์ป่ารักษ์อุทยาน รักษากฏหมายตามหน้าที่ที่พึงกระทำ
น่าเสีดายที่นายดำรงค์ พิเดช จะปลดเกษียณในเดือนตุลาคม ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจในการกำจัดผู้บุกรุกป่าและอุทยานให้หมดสิ้น ควรต่ออายุราชการให้น ายดำรงค์ อยู่ต่อ เพื่อที่จะได้ปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าและอุทยานทั่วประเทศให้หมดสิ้
พื้นที่ดินที่กำลังเป็นข่าว เป้นพื้นที่ ส.ป.ก. ซึ่งติดกับพื้นที่ป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ ที่อดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของ กรมป่าไม้และอุทยานแห่งชาติว่ามีการบุกรุกป่าสงวนและหรืออุทยานแห่งชาติหรือ ไม่
แต่การที่ผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. (หรือนายทุนที่ครอบครองที่ดิน) ปรับพื้นที่สร้างเป็นรีสอร์ทเป็นเนื้อที่นับพันไร่ ก็เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว เพราะที่ดิน ส.ป.ก. มีไว้ให้ครอบครองเพื่อการเกษตรเพียงอย่างเดียว การอ้างอิงเหตุผลใดไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้อยกเว้นได้ ไม่เชื่อก็ไปฟ้องศาลดู
19ก.ค. นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ สั่งลื้อรีสอร์ทที่สร้างบนที่ดิน ส.ป.ก. หลังได้รับรายงานจาก ส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมาว่ามีการสร้างรีสอร์ทบนที่ดิน ส.ป.ก.จริง มีจำนวน 25 ราย รายละ 5 ไร่ ซึ่งเป็นการกระทำผิดวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง
ส่วนการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวน นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า พบว่ามีการสร้างที่อยู่อาศัยและรีสอร์ทในขตป่าสงวนจำนวน 22 ราย กรมป่าไม้จะไปขอหมายศาล เพื่อเข้าตรวจสอบและรื้อถอน แม้ว่าผู้ครอบครองจะมีเอกสารสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็น ส.ค.1 หรือ น.ส.3ก หรือแม้แต่โฉนดที่ดิน ก็จะมีการตรวจสอบไปยังกรมที่ดินว่าออก เอกสารสิทธิ์เหล่านี้ได้อย่างไร เพราะเป็นพื้นที่ในเขตป่าสงวน
ที่อำเภอปากช่อง ก็จะมีการตรวจสอบในลำดับต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีพื้นที่ที่ถูกบุกรุกและมีการใช้ที่ดินผิด วัตถุประสงค์ และมีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ เช่นมีการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ครอบครองที่ดินซึ่งไม่ใช่ ทาญาติของผู้ครอบครองเดิม ตามที่ได้รับเอกสารสิทธิ์
30 ก.ค. นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเตรียมเข้าตรวจสอบการบุกรุก ที่ดินเขตป่าสงวนประมาณ 300 ไร่ ที่ อ.เชียงกลาง จังหวัดน่าน
หลังจากนั้นก็จะเข้าตรวจสอบพื้นที่สาธารณะประโยชน์ใน จ.นครราชสีมา มีเนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่ ทีมีการบุกรุกโดยกลุุ่มนายทุนซึ่งเป็นเครือญาติกับนักการเมือง ซึ่งนอกจากนี้ยังมีการทุจริตต่อหน้าที่ในภาครัฐ ในการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ
นายอำพล กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็ได้มีการตรวจสอยการออกเอกสารสิทธิ์บุกรุกพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ ที่จังหวัด เชียงราย และในกรณีที่ผู้ครอบครองที่ดินมีเอกสารสิทธิ์ ส.ค. 1 ก็จะมีการตรวจสอบว่าได้ยื่นคำร้องขอเมื่อใด |