มาตรา ๒๒๗
- ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครองอันเนื่องมาจากการใช้อำนาจทางปกครองตามกฎหมาย
หรือเนื่องมาจากการดำเนินกิจการทางปกครอง รวมทั้งคดีอันเนื่องมาจากการบริหารและการบริหารงานบุคคลของ
องค์กรตามรัฐธรรมนูญซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ ตลอดจนมีอำนาจพิจารณา
พิพากษาเรื่องที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลปกครอง
- อำนาจศาลปกครองตามวรรคหนึ่งไม่รวมถึงการใช้อำนาจหน้าที่ซึ่งเป็นการใช้อำนาจโดยตรงขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ
ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ไม่ว่าอำนาจหน้าที่นั้นจะบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
หรือกฎหมาย
- ให้มีศาลปกครองสูงสุดและศาลปกครองชั้นต้น และจะมีศาลปกครองชั้นอุทธรณ์ด้วยก็ได้
้
มาตรา ๒๒๘
- ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์และผู้ทรงคุณวุฒิในการบริหารราชการแผ่นดิน อาจได้รับแต่งตั้งให้เป็นตุลาการ
ในศาลปกครองสูงสุดได้ การแต่งตั้งให้บุคคลดังกล่าวเป็นตุลาการในศาลปกครองสูงสุดให้แต่งตั้งไม่น้อยกว่า
หนึ่งในห้าของจำนวนตุลาการในศาลปกครองสูงสุดทั้งหมด และต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตุลาการ
ศาลปกครองตามที่กฎหมายบัญญัติและได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาก่อน แล้วจึงนำความกราบบังคมทูล
- การคัดเลือกตุลาการในศาลปกครองชั้นต้นเพื่อแต่งตั้งให้ผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการในศาลปกครองสูงสุด
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายว่าด้วยการแต่งตั้งศาลปกครองและวิธีการพิจารณาคดีปกครองบัญญติ
โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง และได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาก่อนแล้วจึงนำความบังคมทูล
มาตรา ๒๒๙
- ให้มีแผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณในศาลปกครองชั้นต้นและศาลปกครองสูงสุด
- องค์คณะ อำนาจหน้าที่ การฟ้องคดีและวิธีพิจารณาคดี รวมทั้งการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์
และการอื่นที่จำเป็น ของศาลปกครองแผนกคดีวินัยการคลังและงบประมาณ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการ
จัดตั้งศาลปกครองและการพิจารณาคดีปกครอง
|